การลงทุนแบบ “Core” และ “Satellite” Portfolio คืออะไร?
นิยามและกลยุทธ์การบริหารการลงทุน
สร้างผลงานที่ดีที่สุดของการลงทุนด้วยการออกแบบพอร์ตลงทุนแบบ “Core” และ “Satellite” Portfolio
ถ้าเราต้องการสร้างออกแบบการลงทุนที่เรียบง่ายที่สุด และต้องการสร้างผลตอบแทนดีที่สุด นักทุนจะต้องเรียนรู้กับพื้นฐานของการสร้างพอร์ตโฟลิโอด้วยการออกแบบที่เรียกว่า “core and “Satellite””
กลยุทธ์การลงทุนที่ดีที่สุด และหลักการการสร้าง “Core” และ “Satellite” Portfolio เป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในระยะยาว
ความหมายของ “Core” และ “Satellite” Portfolio
“Core” และ “Satellite” คือการออกแบบพอร์ตการลงทุนที่ได้รับการยอมรับทั่วไป และได้รับการทดสอบมาอย่างยาวนานว่ามีประสิทธิภาพสูง
ซึ่งประกอบด้วย “Core” หรือ หุ้นหลัก เช่นหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นพื้นฐานที่ดี หุ้นปันผลสูง ซึ่งส่วนนี้จะเป็นส่วนส่วนที่ใหญ่ที่สุดของพอร์ตโฟลิโอ
และ “Satellite” หรือหุ้นรอง เช่นหุ้นขนาดเล็ก หุ้นUpsideสูง หุ้นเติบโต หุ้นเกร็งกำไร ส่วนนี้จะเป็นส่วนส่วนที่เล็กรองลงมาของพอร์ตโฟลิโอ
วัตถุประสงค์หลักของการออกแบบพอร์ทโฟลิโอนี้คือการลดความเสี่ยงด้วยการกระจายความเสี่ยง (วางไข่ในตะกร้าต่างๆ) ซึ่งสามารถทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า (ให้มีผลตอบแทนสูงกว่า) เกณฑ์มาตรฐาน เช่น SET SET50
ซึ่งผลงานของ “Core” และ “Satellite“จะหวังผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ย และต้องมีความเสี่ยงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับนักลงทุน
เริ่มต้นด้วย “Core”
การถือหุ้นหลักที่ดีที่สุดคือหุ้นที่มีขนาดใหญ่ เช่น Advance AOT SCC BBL PTT BTS BDMS “Core”จะเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของพอร์ตของคุณ เปอร์เซ็นต์ที่ดีสำหรับพอร์ตโฟลิโอระดับปานกลางคือ 30-50% จำนวนหุ้นไม่เกิน 2 ตัว
เหตุผลที่หุ้นขนาดใหญ่ทำงานได้ดีเนื่องจากการถือครองหุ้นจะมีความผันผวนต่ำ และหุ้นพื้นฐานดีขนาดใหญ่โอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลงทุนระยะยาว
เพิ่ม “Satellite”
หลังจากซื้อ “Core” แล้ว เราจะเลือกหุ้นต่างๆจะมาใส่พอร์ตด้วย “Satellite” ซึ่งจะทำให้โครงสร้างของการลงทุนของ “Core” and “Satellite” มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เปอร์เซ็นต์ที่ดีสำหรับพอร์ตโฟลิโอระดับปานกลางคือ 30-50% จำนวนหุ้นไม่เกิน 5 ตัว
หุ้นอื่น ๆ เหล่านี้อาจรวมถึงหุ้นขนาดกลางหุ้น หุ้นขนาดเล็กหุ้น “Satellite”หุ้นกลุ่มนี้เป็นเงินที่จะช่วยนักลงทุนเพิ่มผลตอบแทนหากประสบความสำเร็จในกลยุทธ์นี้จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเช่น SET SET50
ซึ่งผลงานของ “Core” และ “Satellite”จะหวังผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ย และต้องมีความเสี่ยงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับนักลงทุน
พอร์ตลงทุนแบบ “Core” and “Satellite” ช่วยให้มั่นใจได้ว่านักลงทุนจะมีความหลากหลายในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ประเภทของหุ้นที่แตกต่างกัน และการลงทุนนี้ยังสามารถช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลด้วยความเสี่ยงที่เหมาะสม
สัดส่วนและการวางน้ำหนักระหว่าง “Core” และ “Satellite” ไม่ได้เป็นเรื่องตายตัวแล้วแต่นักลงทุนจะต้องการ และขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่นักลงทุนจะรับได้
เสี่ยงสูง “Core”:”Satellite” 30:70
เสี่ยงกลาง “Core”:”Satellite” 50:50
เสี่ยงต่ำ “Core”:”Satellite” 70:30
***แนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ให้จัดพอร์ตแบบเสี่ยงกลาง และเสี่ยงต่ำก็เพียงพอที่จะสามารถทำให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเช่น SET SET50 ได้แล้ว***
Disclaimer: ข้อมูลในเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อการสนทนาเท่านั้นและไม่ควรเข้าใจผิดว่าเป็นคำแนะนำในการลงทุน ภายใต้สถานการณ์ต่างๆข้อมูลเหล่านี้ไม่แสดงถึงคำแนะนำในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์