“ทำไมถึงออมเงินไม่ได้ซักที !!!” คำถามนี้การศึกษาการเงินเชิงพฤติกรรม (Bahavioral Finance) สามารถให้คำตอบได้ ว่านั่นเป็นเพราะในพวกเราเกือบทุกคนมี 3 ปัจจัยที่เป็นเหมือนกำแพงที่กันคุณออกจากความสำเร็จในการออม ลองสำรวจตัวคุณได้ทันที
- ความเฉื่อย (inertia) ถ้าต้องเริ่มต้นอะไรสักอย่าง แล้วเกิดคำพูดที่ว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเริ่มออม” “ฉันจะไม่ใช้เงินสิ้นเปลือง” “ฉันจะ…..ๆๆๆ” คุณกำลังโดนความเฉื่อยครอบงำอยู่นั่นเอง
- ความกลัวการสูญเสีย (loss aversion) เมื่อเราคิดว่าต้องกันเงินในปัจจุบันไปเก็บ แทนที่จะได้ใช้สอยอย่างเต็มที่ คือการสูญเสียเงินของตัวเอง คุณจึงไม่อยากออม
3.ขาดการมองการณ์ไกล (Myopai) หรือขาดเป้าหมาย เพราะไม่รู้ว่าจะออมเงินไปเพื่ออะไร เราจึงใช้เงินซื้อความสุขเฉพาะหน้า โดยลืมเป้าหมายสำคัญในอนาคต เช่น วางแผนเกษียณ เป็นต้น
หากใครมีพฤติกรรมตาม 3 ปัจจัยข้างต้น เรามาเปลี่ยนกันเถอะ เพราะเพียงแค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน !!!
- เริ่มออมวันนี้ ป้องกันความเฉื่อยด้วยการออมอัตโนมัติโดยเปลี่ยนสมการการออมจาก
รายรับ – รายจ่าย = เงินออม เป็น รายรับ – เงินออม = รายจ่าย
- เปลี่ยนความคิดการสูญเสียจากการออมเงิน สมมุติเรามีเงิน 50,000 บาทฝากไว้ในธนาคาร A เมื่อเราถอนเงินออกไปฝากธนาคาร B 30,000 บาท เราเหลือเงินเท่าไร? คำตอบคือเราเหลือเงิน 50,000 บาท การออมเงินก็เช่นเดียวกัน ถ้าใครรู้สึกว่าการออมไม่เป็นการสูญเสียเมื่อไร นั่นคือก้าวแรกของการออมได้เกิดขึ้นแล้ว
- สร้างเป้าหมายที่ชัดเจนด้วยการเขียนหรือจดบันทึก แล้วคุณจะเห็นภาพวิธีการที่จะพาคุณไปหาเป้าหมายนั้นเอง เคล็ดไม่ลับก็คือ ความสำเร็จของการวางแผนการออม 80 % คือความชัดเจนและแน่วแน่กับเป้าหมาย ส่วนเรื่องวิธีการมีความสำคัญเพียง 20 % เท่านั้น
ถ้าเข้าใจความผิดพลาดทั้ง 3 ข้อและเปลี่ยนความคิดแล้ว การวางแผนการออมก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป…
รุ่งโรจน์ ศรีขจรลาภ FchFp.
Rungroj Srikhajohnlab FchFp.